โครงการ

Getty Images 675382078 1

ในแต่ละปี ผู้คนอพยพย้ายถิ่นเพื่อไปทำงานในประเทศอื่นเป็นจำนวนมากขึ้นทุกปี และพวกเขาได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยังคงเห็นแนวปฏิบัติที่ละเมิดสิทธิต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบในการจัดหางานแรงงานข้ามชาติสำหรับงานค่าจ้างต่ำอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลมีบทบาทที่สำคัญในการทำให้เกิดการจัดหางานที่เป็นธรรม โดยหลายประเทศได้มีการพัฒนากรอบกฎหมายเพื่อนำไปบังคับใช้ ในขณะที่อีกหลายประเทศยังไม่สามารถขจัดการปฏิบัติที่ละเมิดสิทธิได้อย่างสิ้นซาก เมื่อเทียบกับแนวทางเชิงปฏิบัติต่างๆ ที่ออกมาเพื่อบรรษัทข้ามชาติในการจ้างงานอย่างมีจริยธรรมในปีที่ผ่านมาแล้ว พบว่างานวิจัยที่มีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้รัฐบาลดำเนินการแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิในกระบวนการจัดหางานยังมีจำนวนน้อย โครงการนี้เป็นความพยายามในการเติมเต็มช่องว่างทางการวิจัยและข้อมูลด้านดั่งกล่าวนั่นเอง

เราวิจัยอะไรและที่ไหนบ้าง

โครงการนี้มุ่งเน้นการวิจัยไปที่พื้นที่การย้ายถิ่นทั้งหมด 5 พื้นที่ ได้แก่ เมียนมาไปไทย เนปาลไปคูเวต เนปาลไปกาตาร์ ฟิลิปปินส์ไปไต้หวัน และเม็กซิโกไปแคนาดา ในพื้นที่เหล่านี้ โครงการได้ศึกษาประเด็นนโยบายของรัฐบาลที่เชื่อมโยงกัน อันประกอบด้วยตัวชี้วัด 44 ตัวที่ส่วนใหญ่ยึดโยงอยู่กับหลักการทั่วไปและแนวปฏิบัติเพื่อการจัดหางานที่เป็นธรรมของ ILO รวมทั้งประเด็นนโยบายบางประเด็น เช่น ความยืดหยุ่นในการเคลื่อนย้ายงานของแรงงานข้ามชาติและเส้นทางไปสู่การได้สิทธิในการพำนักถาวรและสถานะพลเมือง ซึ่งไม่ได้ถูกพูดถึงในมาตรฐานระหว่างประเทศมากนัก ในแต่ละขั้นตอนการศึกษาและวิเคราะห์นั้น เราพยายามระบุประเด็นร่วมของพื้นที่ต่างๆ ที่ส่งผลกระทบในทางตรงต่อการอพยพย้ายถิ่นฐานของแรงงานเพื่อไปทำงานอย่างเป็นธรรม

เราได้พูดคุยกับใครบ้าง

เราได้ดำเนินการสัมภาษณ์เชิงลึกทั้งหมดกว่า 300 ครั้งสำหรับโครงการนี้ รวมถึงจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพูดคุยอภิปรายหลายรอบ นอกจากนั้น เรายังได้ทำการวิจัยขั้นทุติยภูมิอย่างละเอียดเพื่อประเมินกฎหมาย นโยบาย และแนวปฏิบัติตามตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้อง และติดต่อขอข้อมูลจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในวงกว้าง รวมถึงตังแทนรัฐบาล แรงงานข้ามชาติ ผู้จัดหางานและนายจ้าง ภาคประชาสังคม สหภาพแรงงาน นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญเชิงเทคนิค และตัวแทนจาก ILO และ IOM

เราได้ค้นพบอะไรบ้าง

การลงพื้นที่วิจัยอย่างละเอียดตามประเด็นและตัวชี้วัดที่กำหนดได้แสดงให้เห็นว่า ตัวชี้วัดต่างๆ นั้นมีความเชื่อมโยงและทับซ้อนกันมากเพียงใด ยกตัวอย่างเช่น กฎหมายเกี่ยวกับการจัดหางานที่เข้มแข็งจะมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อถูกบังคับใช้โดยเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการอบรมและมีทรัพยากรอย่างเพียงพอ ข้อตกลงด้านแรงงานแบบทวิภาคีที่ระบุข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดหางานอย่างเป็นธรรมอย่างละเอียดจะไร้ประสิทธิภาพ หากกฎหมายของประเทศปลายทางละเมิดสิทธิแรงงานขั้นพื้นฐาน หรือการห้ามเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดหางานจะไม่เป็นผล หากตัวแทนที่ทุจริตสามารถหลบเลี่ยงกฎหมายและกฎระเบียบเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตได้ จากการศึกษาพื้นที่การย้ายถิ่นในแต่ละพื้นที่ เราได้นำเสนอข้อเสนอแนะหลัก 7 ข้อและข้อเสนอแนะย่อยอย่างละเอียดอีก 35 ข้อ ข้อเสนอแนะหลักทั้ง 7 ข้อได้ถูกนำเสนอตามลำดับความสำคัญ โดยเริ่มจากมาตรการที่สำคัญที่สุดก่อนและข้อเสนอสามข้อแรกเป็นข้อเสนอสำหรับรัฐปลายทาง เราได้ประเมินว่า ถึงแม้การพูดคุยเกี่ยวกับการจัดหาแรงงานข้ามชาติส่วนใหญ่มักพุ่งความสนใจไปที่บทบาทของประเทศต้นทาง แต่รัฐปลายทางกลับเป็นผู้ที่มีอิทธิพลหลักในการเอื้อให้เกิดการจัดหางานอย่างเป็นธรรม

ที่ปรึกษาและผู้สนับสนุน

โครงการศึกษาการย้ายถิ่นห้าพื้นที่นำโดย FairSquare Projects ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรด้านสิทธิมนุษยชนที่ตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอน FairSquare Projects ทำการวิจัยและการรณรงค์เพื่อช่วยส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยมีความเชี่ยวชาญในประเด็นสิทธิแรงงานข้ามชาติโดยเฉพาะ

ท่านทูต Luis DeBaca (เกษียณอายุราชการ) เป็นหนึ่งในสองที่ปรึกษาอาวุโสของโครงการ ท่านทูต DeBaca เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเพื่อการติดตามและต่อต้านการค้ามนุษย์ของกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกาภายใต้รัฐบาลของโอบามาและได้เป็นผู้ประสานงานโครงการต่อต้านแรงงานทาสร่วมสมัยระดับโลก เขาเป็นนักวิจัยที่ Gilder Lehrman Center for the Study of Slavery, Resistance, and Abolition ของศูนย์ MacMillan แห่งมหาวิทยาลัยเยล

Elizabeth Frantz เป็นผู้อำนวยการฝ่าย International Migration Initiative ขององค์กร Open Society Foundations และเป็นที่ปรึกษาอาวุโสอีกคนของโครงการของเรา เธอเป็นผู้นำโครงการด้านงานที่เป็นธรรมให้กับองค์กร ซึ่งสนับสนุนความพยายามในการป้องกันแนวปฏิบัติที่เอารัดเอาเปรียบแรงงานที่กระทบต่อผู้อพยพและผู้ลี้ภัย

เรายังได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของสมาชิกคณะที่ปรึกษาโครงการศึกษาการย้ายถิ่นห้าพื้นที่อีกด้วย ได้แก่

  • Marie Apostol ผู้ก่อตั้งและประธาน/ประธานบริหารของ TFHI Inc (The FAIR Hiring Initiative)
  • รองศาสตราจารย์ Bassina Farbenblum จากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์และ Migrant Worker Justice Initiative
  • ศาสตราจารย์ Ray Jureidini ศาสตราจารย์ด้านจริยธรรมและสิทธิมนุษยชนในการย้ายถิ่นฐานที่ศูนย์วิจัย Research Center for Islamic Legislation and Ethics (CILE) แห่งมหาวิทยาลัยฮาหมัดบินคาลิฟา เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์
  • ศาสตราจารย์ Sarah Paoletti ผู้อำนวยการก่อตั้งของ Transnational Legal Clinic ภายใต้โรงเรียนกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
  • David Schilling จาก Interfaith Centre on Corporate Responsibility (ICCR)
  • ดร. Angela Sherwood จากควีนแมรี มหาวิทยาลัยลอนดอน