ข้อเสนอแนะหลักข้อที่ 1
รัฐปลายทางควรสร้างเงื่อนไขทางตลาดเพื่อเอื้อให้เกิดการจัดหางานอย่างมีจริยธรรม โดยให้นายจ้างเป็นผู้รับผิดชอบต้นทุนทั้งหมดในการจัดหาแรงงานข้ามชาติ และกำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาม
แม้ว่าทั่วโลกจะให้การสนับสนุน “หลักการนายจ้างเป็นผู้จ่าย” มากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกๆ ปีแรงงานข้ามชาติหลายแสนคนยังต้องจ่ายต้นทุนในการจัดหางานและการย้ายถิ่นฐานของตนเองอยู่
ในกรณีข้างต้น นายจ้างทราบดีหรืออย่างน้อยควรทราบว่า ต้นทุนที่แท้จริงของการจัดหางานถูกโอนถ่ายไปยังแรงงาน เหตุผลที่นายจ้างหลายคนแทบไม่พยายามตรวจสอบต้นทุนที่แท้จริงของการจัดหางานหรือรับผิดชอบต้นทุนนั้นด้วยตนเองเป็นเพราะว่า พวกเขาไม่รู้สึกถูกกดดันให้ทำ ประเทศต้นทางมักเข้าใจว่า การจ่ายเงินนั้นมีความจำเป็นในการรับประกันตำแหน่งงาน ไม่ว่ากฎหมายจะระบุอย่างไร เนื่องจากการแข่งขันเพื่อให้ได้งานบางครั้งมีความเข้มข้น ขณะเดียวกัน รัฐปลายทางก็แสดงความพยายามอย่างไม่เพียงพอในการแทรกแซงตลาดการจัดหางานเพื่อรับประกันว่า แรงงานข้ามชาติจะสามารถเข้าถึงงานได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม แม้ว่าบางประเทศมีการออกกฎหมายห้ามไม่ให้แรงงานจ่ายค่าธรรมเนียมในการจัดหางานแล้ว แต่ประเทศส่วนใหญ่ก็ไม่ได้นำ “หลักการนายจ้างเป็นผู้จ่าย” มาปรับใช้อย่างเต็มที่ และอนุญาตหรือแม้แต่กำหนดให้แรงงานเป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียมบางส่วน ขณะเดียวกัน ก็แทบไม่มีประเทศใดที่แสดงความพยายามในการบังคับใช้กฎหมายห้ามเก็บค่าธรรมเนียมในการจัดหางานอย่างแท้จริง โดยหน่วยงานด้านแรงงานของประเทศดังกล่าวมักพุ่งความสนใจต่อประเด็นด้านการจ้างงานที่สำคัญ อย่างเช่น การจ่ายค่าจ้าง สวัสดิการ และสุขภาพและความปลอดภัย ขณะที่ละเลยแนวปฏิบัติในการจัดหางาน หน่วยงานดังกล่าวอาจมองการจัดหางานว่าเป็นช่องว่างหรือเป็นปัญหาเชิงเทคนิคที่มีความ “ยุ่งยาก” ส่วนหนึ่งเนื่องจากจำนวนผู้ที่เกี่ยวข้องและบางรายตั้งอยู่นอกขอบเขตอำนาจของตน การบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการจ่ายค่าธรรมเนียมในการจัดหางานในรัฐปลายทางมีน้อย ดังนั้น ธุรกิจต่างๆ จึงไม่ค่อยรู้สึกถึงแรงกดดันทางกฎหมายที่ป้องกันไม่ให้เขาใช้ตำแหน่งทางการตลาดของตนในทางที่ไม่เหมาะสม ผลกระทบของการขาดการกำกับดูแลในประเด็นดังกล่าวในประเทศปลายทางจึงนำไปสู่อุปสงค์ในการจัดหางานอันไร้จริยธรรมในประเทศต้นทางในที่สุด
รัฐปลายทางจำเป็นต้องกระตุ้นให้เกิดอุปสงค์ในการจัดหางานที่มีจริยธรรม โดยการขึ้นต้นทุนของนายจ้างที่ไม่รับผิดชอบต้นทุนที่แท้จริงของการจัดหางาน ขณะที่มาตรการดังกล่าวไม่ได้ทำให้ตัวแทนจัดหางานและนายหน้าในประเทศต้นทางเลิกเก็บค่าธรรมเนียมจากแรงงานโดยสิ้นเชิง แต่มันเป็นการให้พื้นที่ในตลาดแก่ผู้เล่นที่มีจริยธรรม และหมายความว่า หน่วยงานกำกับดูแลของประเทศต้นทางสามารถบังคับใช้กฎหมายที่ไม่สวนทางกับกระแสแรงกดดันของตลาดได้
1.1. ห้ามไม่ให้แรงงานต้องจ่ายค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ แก่หน่วยงานใดๆ รวมถึงบุคคลที่สามที่อาจตั้งอยู่นอกประเทศ สอดคล้องกับคำนิยามของ ILO
1.2. รับประกันว่า กฎหมายจะเอาผิดนายจ้างและผู้จัดหางานที่อยู่ในประเทศปลายทางสำหรับการกระทำของบุคคลที่สามในกระบวนการจัดหางาน ไม่ว่าบุคคลที่สามนั้นจะตั้งอยู่ในประเทศต้นทาง ปลายทาง หรือประเทศที่สาม และกำหนดให้นายจ้างต้องดำเนินการตรวจสอบรอบด้านในห่วงโซ่อุปทานของตนเพื่อรับประกันว่า แรงงานไม่ถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือได้เงินค่าธรรมเนียมคืน ในกรณีที่ได้จ่ายค่าธรรมเนียมในการจัดหางานไปแล้ว
1.3. พัฒนาศักยภาพของหน่วยงานด้านแรงงานในการระบุหาการละเมิดสิทธิในกระบวนการจัดหางาน เช่น โดยการดำเนินมาตรการตรวจแรงงานแบบสุ่มกับนายจ้างที่สม่ำเสมอและกว้างขวาง พร้อมการสัมภาษณ์แรงงานโดยไม่มีนายจ้างเข้าร่วม และรับประกันว่า มาตรการตรวจแรงงานดังกล่าวได้ครอบคลุมการละเมิดสิทธิในกระบวนการจัดหางานอย่างมีความหมาย และไม่ถูกมองข้าม และกำหนดให้นายจ้างต้องแสดงหลักฐานขณะการตรวจแรงงานว่า ตนได้จ่ายเงินค่าธรรมเนียมในการจัดหางานและต้นทุนอื่นๆ สำหรับแรงงานแล้ว
1.4. สร้างและส่งเสริมกระบวนการที่ให้แรงงานข้ามชาติทุกคนสามารถเปิดเผยข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่และเรียกร้องการชดเชยค่าธรรมเนียม รวมถึงรายงานการถูกแทนที่สัญญา
1.5. กำหนดให้บุคคลที่ให้บริการจัดหางานสำหรับแรงงานข้ามชาติต้องขอใบอนุญาต และนำกรอบการจัดหางานอย่างมีจริยธรรมมาใช้ในระบบการออกใบอนุญาต เช่น ให้ตัวแทนจัดหางานในอนาคตหรือปัจจุบันต้องแสดงการปฏิบัติตามแนวทางการจัดหางานอย่างมีจริยธรรม และให้ตัวแทนต้องมีการตรวจสอบการปฏิบัติตามโดยบุคคลภายนอกที่เป็นอิสระ และรับประกันว่า ระบบการออกใบอนุญาตและผลการตรวจสอบการปฏิบัติตามมีความโปร่งใสและสามารถเข้าถึงได้โดยแรงงานและนายจ้าง
1.6. ให้ธุรกิจหรือบุคคลใดๆ ที่มีรายได้จากการจ้างงานแรงงานข้ามชาติและทำสัญญารับเหมาช่วงแรงงานนั้นแก่ธุรกิจอื่นต้องถูกตรวจสอบโดยละเอียด
1.7. ปรับปรุงการประสานงานระหว่าง (ก) หน่วยงานรัฐบาลที่มีอำนาจในการกำกับและตรวจสอบนายจ้างและตัวแทนจัดหางาน กับ (ข) หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่รับผิดชอบในการตรวจสอบการทุจริตและการละเมิดโดยบุคคลที่ไม่ถูกควบคุมและความผิดทางอาญาจากการบังคับใช้แรงงานและ/หรือการค้ามนุษย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งต่อข้อมูลเกี่ยวกับนายจ้างและตัวแทนจัดหางานที่กระทำความผิดทางอาญา เพื่อนำไปสอบสวนและดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
1.8. ให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายดำเนินการตรวจสอบเชิงรุกเพื่อหาแนวปฏิบัติทุจริตที่เชื่อมโยงกับการจัดหางาน รวมถึงการที่นายจ้างหรือผู้จัดหางานได้รับ “สินบน” จากผู้จัดหางานในประเทศต้นทางเพื่อแลกกับข้อเสนอในการทำงาน
1.9. สร้างแรงจูงใจสำหรับการจัดหางานที่มีจริยธรรม โดยกำหนดให้บริษัทวางแผนงบประมาณสำหรับต้นทุนในการจัดหางานอย่างโปร่งใส รวมถึงในห่วงโซ่สัญญาของตน ในการประมูลการจัดซื้อสาธารณะ